มารู้จักกับเกมไพ่ป๊อกเด้ง


มารู้จักกับเกมไพ่ป๊อกเด้ง

ป๊อกเด้ง หรือ ไพ่ป๊อก เป็นเกมไพ่ยอดนิยมในประเทศไทย เป็นเกมไพ่ที่มีวิธีการเดิมพันที่เข้าใจง่ายที่สุด ด้วยแนวคิดการใช้ทักษะทางคณิตศาสตร์แบบพื้นฐาน เพียงแค่ดูวิธีการเล่นป๊อกเด้ง 1-2 ครั้ง ผู้เล่นก็สามารถที่จะเข้าใจวิธีการเล่น การเดิมพันทั้งหมดได้เป็นอย่างดี ไพ่ป๊อกเด้ง

      ประวัติความเป็นมาของไพ่ป๊อกเด้ง

เรื่องราวเกี่ยวกับ ไพ่ป๊อกเด้งไม่มีแหล่งที่มาที่ชัดเจนนัก แต่ข้อมูลส่วนใหญ่ระบุว่า เป็นเกมพนันที่นิยมอย่างมากในแถบเอเชีย รวมไปถึงวิธีการเรียกลักษณะพิเศษของผลไพ่ในแต่ละรูปแบบที่ค่อนข้างตรงตัว เช่น ป๊อกแปด ป๊อกเก้า สองเด้ง เป็นต้น

คำเหล่านี้ถือว่าเป็นคำในภาษาไทยที่ทุกคนเข้าใจกันเป็นอย่างดี เพราะหลายๆแหล่งอ้างอิงมักจะเขียนทับศัพท์โดยมีศัพท์พื้นฐานภาษาไทยเป็นต้นแบบ เช่น ป๊อกเก้า (Pok Goa) ป๊อกแปด (Pok Pad) สองเด้ง (Song Deng)

ดังนั้นเราจึงอาจสรุปที่มาที่ไปของไพ่ป๊อกเด้งว่า แท้จริงแล้วต้นกำเนิดของมันอาจจะเริ่มต้นในประเทศไทยด้วยซ้ำ ทั้งนี้ก็ยังมีเกมไพ่ เก้าแต้ม ที่เล่นกันในต่างประเทศ หรือเกมไพ่แบล็คแจ็ค 21 แต้ม รวมไปถึง เกมไพ่บาคาร่า ที่อาจจะมีวิธีการเล่นสอดคล้องหรือคล้ายคลึงกันกับป๊อกเด้ง ดังนั้นทำให้แหล่งกำเนิดของป๊อกเด้ง มีความเป็นไปได้ในหลายแง่มุม

      ค่าของหน้าไพ่ ในเกมป๊อกเด้ง

ค่าของ หน้าไพ่ป๊อกเด้ง จะยึดตามแต้มที่ปรากฏในหน้าไพ่นั้นๆ ดังนั้นผลของไพ่ในลักษณะนี้จึงค่อนข้างที่จะเข้าใจง่าย ดังต่อไปนี้
  • 10 , J , Q , K มีค่าเท่ากับ 0
  • A มีค่าเท่ากับ 1
  • 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 มีค่าเท่ากับ แต้มที่ปรากฏบนหน้าไพ่
นอกจากนี้เรายังต้องเข้าใจวิธีการเรียงลำดับ ขนาดของไพ่ ซึ่งจะเป็นวิธีการวัดผลเมื่อแต้มรวมเท่ากัน
วิธีวัดผลแพ้ชนะ ป๊อกเด้ง

      วิธีการวัดผลแพ้ชนะจะใช้รูปแบบของการเรียงไพ่จากใหญ่ไปหาเล็กดังต่อไปนี้

1.กรณี วัดผลที่แต้ม
ป๊อก 9 (2 เด้ง) > ป๊อก 9 > ป๊อก 8 (2 เด้ง) > ป๊อก 8

2.กรณีที่แต้ม ของไพ่ เท่ากัน จะเรียงลำดับขนาดดังนี้
ตอง > สเตทฟลัท > เรียง > เหลือง > แต้ม

3.กรณี ตอง จะต้องวัดผลไพ่ เรียงลำดับ ตามแต้มดังนี้
K > Q > J > 10 > 6 > 5 > A

4.กรณีไพ่เรียงหรือสเตท จะใช้วิธีการวัดผลด้วยดอกดังนี้
โพธิ์ดำ > โพธิ์แดง > ข้าวหลามตัด > ดอกจิก

      กติกาการเล่นไพ่ป๊อกเด้ง

กติกาป๊อกเด้ง 2 ใบนั้น ผู้เล่นทุกคนจะต้องทำให้แต้มในมือของตัวเองมีผลรวมเท่ากับ 9 หรือใกล้เคียง 9 ให้มากที่สุด ดังนั้นถ้าให้ 2 ใบแรกให้แต้มที่มากกว่าหรือเท่ากับ 6 ถือว่าอยู่ อาจไม่จำเป็นต้องขอไพ่เพิ่ม

นอกจากนี้ ผู้เล่นจะลุ้นไพ่ตอง (ตอง 3) สเตท, เรียง, เหลือง ซึ่งขึ้นอยู่กับหน้าไพ่ 2 ใบแรกในมือ ที่จะเป็นตัวแปรให้ตัดสินใจในการขอไพ่ใบที่ 3 หรือไม่ เพราะถ้าหน้าไพ่เป็นไปแบบที่กล่าวข้างต้น จะส่งผลให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น 3 ถึง 5 เท่า
  • ไพ่ 2 ใบแรกให้ผลรวมเท่ากับ 9 แต้ม (ป๊อก9) ชนะ ทันที
  • (8 แต้ม (ป๊อก 8) ชนะ ถ้าเจ้ามือ ไม่ป๊อก)
  • ไพ่ 2 ใบแรกให้ผลรวมมากกว่า 4 แต้ม ผู้เล่นจะขอไพ่ใบที่ 3 หรือไม่ก็ได้
  • ไพ่ 2 ใบแรก น้อย กว่า 4 แต้ม จะต้องขอไพ่ใบที่ 3
  • ไพ่ 2 ใบแรก เท่ากับ 4 แต้ม 2 เด้ง ไม่ว่าจะเป็นดอกหรือแต้ม บังคับให้ อยู่
  • ไพ่ 3 ใบ วัดผลแพ้ชนะกันตามขนาดและแต้ม ตามลำดับที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น
      คำศัพท์ป๊อกเด้ง
  • ป๊อก 9 , 8 รูปแบบการชนะด้วยไพ่ 2 ใบที่ได้ 9 หรือ 8 แต้มซึ่ งการชนะจะชนะที่ 9 แต้ม แต่ในกรณีมีการได้เด้งหรือดอกเหมือนกัน การชนะที่เก้าสองเด้งจะถือเป็นรูปแบบการชนะที่สูงที่สุด
  • 2 เด้ง ผลการเดิมพันที่ทำให้เรา ได้หรือเสีย ตามมูลค่าเงินเดิมพันเป็นจำนวน 2 เท่า สเตทฟลัทการได้ไพ่ที่เป็นดอกเดียวกันและมีการเรียงเลข เช่น 7 8 9 , 1 2 3 โดยไม่นับผลแต้มบวกของไพ่ 
  • สเตท / เรียง ผลรวมเลขของไพ่ แต่ไม่จำเป็นต้องมีดอกไพ่ ที่เป็นดอกเดียวกัน
  • ตอง ผลของไพ่ที่เป็นหมายเลขเดียวกัน 3 หมายเลข เช่น K K K , 1 1 1
  • เหลือง (สามเหลือง) ผลของไพ่ที่ประกอบไปด้วย J หรือ Q หรือ K โดยสามารถสลับกันได้เช่น J J K , Q Q J
  • บอด ผลของไพ่ที่เท่ากับ 0 แต้ม ซึ่งจะไม่นับรวมการมีผลของสามเหลือง เช่น การออกผลไพ่เป็น 10 J K

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เมื่อคุณเริ่มเสีย การแทงทบคือเรื่องต้องห้าม

4 สเต็ปเล่นคาสิโนออนไลน์

คาสิโนทุนน้อย ทำกำไรได้ แค่จังหวะดี